12 กรกฎาคม 2562

วันอาสาฬหบูชา

ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
  วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยพระพุทธองค์ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา
  ดังนั้นธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้น ชมพูทวีปในสมัยโบราณกำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภท ทั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนาความเชื่อและข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วนเวียนในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอกพ้นด้วยการคิดปรัชญาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนินชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศศาสนาโดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือเบญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘

ใ จ ค ว า ม สำ คั ญ ข อ ง ป ฐ ม เ ท ศ น า
ในการแสดงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ ๒ ประการคือ

ก. มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นกลาง ๆ ถูกต้องและเหมาะสมที่จะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใช่การดำเนินชีวิตที่เอียงสุด ๒ อย่าง หรืออย่างหนึ่งอย่างใด คือ 
   ๑. การหมกหมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความเรียกว่า เป็นการหลงเพลิดเพลินหมกหมุ่นในกามสุข หรือ กามสุขัลลิกานุโยค 
   ๒. การสร้างความลำบากแก่ตนดำเนินชีวิตอย่างเลื่อนลอย เช่น บำเพ็ญตบะการทรมานตน คอยพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น
การดำเนินชีวิตแบบที่ก่อความทุกข์ให้ตนเหนื่อยแรงกาย แรงสมอง แรงความคิด รวมเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค ดังนั้นเพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัติทางสุดเหล่านี้ ต้องใช้ทางสายกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลักปฏิบัติเป็นองค์ประกอบ ๘ ประการ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ ๘ ได้แก่
๑. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง
๒. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม
๓. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต
๔. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต
๕. สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต
๖. สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี
๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด
๘. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน

ข. อริยสัจ ๔ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่
  ๑. ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บุคคลต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้กล้าสู้หน้าปัญหา กล้าเผชิญความจริง ต้องเข้าใจในสภาวะโลกว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ไม่ยึดติด
  ๒. สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหา ตัวการสำคัญของทุกข์ คือ ตัณหาหรือเส้นเชือกแห่งความอยากซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ
  ๓. นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เริ่มด้วยชีวิตที่อิสระ อยู่อย่างรู้เท่าทันโลกและชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา
  ๔. มรรค ได้แก่ กระบวนวิธีแห้งการแก้ปัญหา อันได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ ประการดังกล่าวข้างต้น

ผ ล จ า ก ก า ร แ ส ด ง ป ฐ ม เท ศ น า
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดเข้าใจธรรม เรียกว่า เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจักษุ บรรลุเป็นโสดาบัน จึงทูลขอบรรพชาและถือเป็นพระภิกษุสาวก รูปแรกในพระพุทธศาสนา มีชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ

ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง อ า ส า ฬ ห บู ช า
“อาสาฬหบูชา” (อา-สาน-หะ-บู-ชา/อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา) ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคติ) กับบูชา (การบูชา) เมื่อรวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน ๘ หรือเรียกให้เต็มว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา โดยสรุป วันอาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญ เดือน ๘ คือ 
๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา 
๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา 
๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์ 
๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว 
๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า เมื่อเปรียบกับวันสำคัญอื่น ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบูชา นี้ว่า วันพระสงฆ์ (คือวันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ์)

พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์
ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใด

เรียบเรียงจาก ความรู้เกี่ยวกับวันสำคัญไทย (เสฐียรโกเศศ และ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) ,๒๕๔๑ : ๓๙ - ๕๙)

วันประชากรโลก (World Population Day)

11 กรกฎาคม 2559

วันประชากรโลก
"วันประชากรโลก" (World Population Day) ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้เกิดความตระหนักในประเด็นปัญหาของประชากรโลก เพื่อให้ประชาชนรู้จักการวางแผนครอบครัวซึ่งการวางแผนครอบครัวจะส่งผลให้ประชากรโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถลดปัญหาความยากจนและปัญหาสังคมทางสังคมลงได้

ความสำคัญของวันประชากรโลก

วันที่ 11 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันประชากรโลก (World Population Day)” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความตระหนักในประเด็นปัญหาของประชากรโลกที่นับวันจะเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ทั้งนี้เมื่อวันที่11 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 เป็นวันที่ประชากรของโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 5,000,000,000 (ห้าพันล้าน) ทำให้ประชาชนต่างให้ความสนใจต่อการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเพิ่มขึ้นของประชากรอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพประชากร  คณะมนตรีประศาสน์การของสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาจึงได้ประกาศให้วันที่ 11 กรกฎาคม 2532 เป็นวันประชากรโลก เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ทุกคนตระหนักถึงจำนวนของประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประชากรของโลกเป็นผู้รับผิดชอบ ได้แก่ กองทุนเพื่อกิจกรรมประชากรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Fund for Population Activities)  หรือชื่อย่อว่า UNFPA โดยวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนฯ ก็เพื่อให้ความช่วยเหลือทุกประเทศในโลก ตลอดจนประเทศกำลังพัฒนาเกี่ยวกับการวางแผนประชากรและการวางแผนครอบครัว เพื่อสร้างความตื่นตัวเรื่องปัญหาประชากรและการหาวิธีแก้ไข
  1. การดูแลควบคุมอัตราการเพิ่มของประชากรหรือการมีครอบครัวที่มีขนาดเล็กลง จะช่วยให้การจัดการศึกษา การดูแลให้บริการด้านสุขอนามัย การพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
  2. การวางแผนครอบครัว ควรมีความหมายครอบคลุมถึงถึงการมีสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว นอกเหนือจากความหมายด้านคุมกำเนิดเพียงด้านเดียว
  3. การให้การศึกษาแก่เด็กหญิงและสตรีอย่างทั่วถึงในเรื่องของการวางแผนครอบครัวและการมีบุตร โดยเฉพาะเด็กหญิงที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จะช่วยให้เด็กหญิงและสตรีรู้วิธีดูแลสุขภาพของตนเอง และสมาชิกครอบครัวดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้การวางแผนครอบครัวดีขึ้น
  4. การชะลอความแออัดในเมือง เพื่อไม่ให้ประชากรล้นเมืองเร็วเกินไป จะมีผลดีกว่าในแง่ของการพัฒนาทั้งในเขตเมืองและชนบท
  5. การจำกัดหรือควบคุมอัตราการเพิ่มของประชากรให้สมดุลกับการพัฒนาของประเทศ จะช่วยลดความรุนแรงเกี่ยวกับการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลกระทบต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
  6. การดูแลควบคุมอัตราการเพิ่มประชากร จะมีผลในการเฉลี่ยแบ่งปันอาหาร น้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน การศึกษา การจ้างงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสได้ดีกว่าการปล่อยให้ประชากรเพิ่มสูงขึ้น

กิจกรรมวันประชากรโลก

ในวันประชากรโลก หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น
  • การจัดกลุ่มศึกษา จัดประชุมสัมนา ประกวดบทความ เรียงความ หรือจัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องประชากร เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการควบคุมดูแลอัตราการเพิ่มประชากรโลกให้น้อยลง

วันสำคัญในเดือนกรกฎาคม 2562

เขียนโดย เวลาไทย. Posted in วันสำคัญเดือนนี้
วันสำคัญต่าง ๆ และวันที่น่าสนใจในเดือน กรกฎาคม 2562 มีดังต่อไปนี้
1 กรกฎาคม : วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ / วันหยุดภาคครึ่งปี ธนาคาร
11 กรกฎาคม : วันประชากรโลก
16 กรกฎาคม : เป็นวันอาสาฬหบูชา
17 กรกฎาคม : เป็นวันเข้าพรรษา
28 กรกฎาคม : เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ร.10)
29 กรกฎาคม : วันภาษาไทยแห่งชาติ
วันพระในเดือนกรกฎาคม 2562 มี 5 วัน ได้แก่
1. วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นวันพระแรม 14 ค่ำ เดือน 7
2. วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2562 เป็นวันพระขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8
3. วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2562 เป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันอาสาฬหบูชา
4. วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2562 เป็นวันพระแรม 8 ค่ำ เดือน 8
5. วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2562 เป็นวันพระแรม 15 ค่ำ เดือน 8
ปฏิทินวันพระ เดือนกรกฎาคม 2562
ปฏิทินวันพระ เดือนกรกฎาคม 2562

1 เมษายน 2562



 วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๒ 
วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
 ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๔ พรรษาและยังเป็นวันเจ้าฟ้านักอ่าน
 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ทรงมีพระวรกายและพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม


ข้าพระพุทธเจ้า  ห้องสมุดประชาชนอำเภอคลองหลวง